ส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ ได้แก่ ตัวต้านทาน (R)
ตัวเก็บประจุ (C) และขดลวดเหนี่ยวนำ (L)
1.วงจร ตัวต้านทาน (R)
เมื่ออยู่ในวงจรไฟฟ้ากระแสสลับที่มีกระแสไฟฟ้า I และมีความต่างศักย์ V
จะมีสมบัติเหมือนกันและคำนวณหาความต้านทาน (R)โดยใช้กฎของโอห์ม


           จากกฎของโอห์มและกราฟจะได้ว่า
             
จึงได้ว่า “ กระแสสลับที่ผ่านตัวต้านทานและความต่างศักย์ไฟฟ้าระหว่างปลาย
ของตัวต้านทานมีเฟสตรงกัน


2. วงจรตัวเก็บประจุ (C)
เมื่ออยู่ในวงจรไฟฟ้ากระแสสลับที่มีกระแสไฟฟ้า I และมีความต่างศักย์ V
จะมีสมบัติดังรูป


แสดงว่า กระแสไฟฟ้าในวงจรตัวเก็บประจุจะมีเฟสนำหน้าความต่างศักย์ไฟฟ้า

ของตัวเก็บประจุอยู่ 90 องศา

ในวงจรไฟฟ้ากระแสตรงกระแสจึงผ่านไม่ได้ จึงถือว่ามีความต้านทานสูงมาก
แต่ในวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ แม้ว่ากระแสจะผ่านไม่ได้ แต่จะมีการเหนี่ยวนำกลับไปกลับมาระหว่างแผ่นโลหะทั้งสองข้างทำให้คล้ายมี
กระแสผ่านได้ แต่ตัวของมันจะมีสมบัติต้านการไหลของกระแสไฟฟ้า
จึงคล้ายมีความต้านทาน ซึ่งเรียกว่า “ความต้านทานเชิงความจุ” (XC)
มีหน่วยเป็นโอห์ม


    3. วงจรขดลวดเหนี่ยวนำ (L)
เมื่ออยู่ในวงจรไฟฟ้ากระแสสลับที่มีกระแสไฟฟ้า I และมีความต่างศักย์ V
จะมีสมบัติดังรูป


แสดงว่า กระแสไฟฟ้าในวงจรตัวเหนี่ยวนำจะมีเฟสตามความต่างศักย์ไฟฟ้า
ของตัวเก็บประจุอยู่ 90 องศา

ในวงจรไฟฟ้ากระแสสลับ ตัวเหนี่ยวนำจะมีสมบัติต้านการไหลของกระแส
ไฟฟ้า จึงคล้ายมีความต้านทาน ซึ่งเรียกว่า “ ความต้านทานเชิงเหนี่ยวนำ” (XL )
มีหน่วยเป็นโอห์ม


การเขียนแผนภาพเฟเซอร์
เป็นวิธีการที่จะช่วยในการรวมค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าของวงจรไฟฟ้า
กระแสสลับ โดยการเขียนลูกศรแทนความต่างศักย์ไฟฟ้าหรือกระแสไฟฟ้า ให้ความยาวของลูกศรแทนขนาดและตำแหน่งของลูกศรแสดงเฟสเริ่มต้น
ของปริมาณนั้น